หนังสือพิมพ์เกียรติภูมิ จังหวัดนครนายก

http://kreattibhum.siam2web.com/

“ผู้ว่าฯเก่ง”จัดประกวดไก่ย่าง

ค้นหาสุดยอดสูตรนครนายก 

 

     “ผู้ว่าฯเก่ง” สุทธิพงษ์  จุลเจริญ  ปิ๊งไอเดีย ส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น ใช้ช่วงก่อนวันสงกรานต์ 12 เม.ย.54 จัดประกวดแข่งขันเพื่อค้นหา “สุดยอดไก่ย่างนครนายก สูตรดั้งเดิม” เผยเคยมีชิมตั้งแต่ครั้งยังเด็กวัยรุ่น รู้สึกประทับใจ อยากรื้อฟื้นให้เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด วาดฝันทำให้กลายเป็นสินค้าของฝากได้ตลอดทั้งปี ด้าน “กูรูอาหาร” ขานรับแนวคิด พร้อมเผยสูตรดั้งเดิมนครนายก ใช้กะทิผสมในเครื่องหมัก ไม่ต้องใช้น้ำจิ้มก็อร่อย ชี้โอกาสเป็นไปได้ในการผลักดันในเป็นสินค้าเศรษฐกิจของจังหวัด เนื่องจากมีวัตถุดิบโดยเฉพาะฟาร์มไก่อยู่จำนวนมากนอกจากนี้กระทิยังเป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย

          นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เกียรติภูมิ ว่าตนเองมีแนวคิดในการส่งเสริมเอกลักษณ์หรือลักษณะเด่นทางอาหารของจังหวัดนครนายก เนื่องจากจังหวัดของเรามีน้ำตกที่มีชื่อเสียง ซึ่งธรรมดาเมื่อคนคิดถึงน้ำตก ก็จะคิดถึงส้มตำ-ไก่ย่าง ซึ่งมักจะเป็นอาหารที่คู่กัน โดยเมื่อสมัยตนเองยังเป็นวัยรุ่นเคยมาเที่ยวน้ำตกสาลิกา และได้มีโอกาสรับประทานไก่ย่างสูตรของนครนายก รู้สึกประทับใจในความอร่อย หอมหวานของเนื้อไก่ โดยที่ไม่ต้องใช้น้ำจิ้มก็สามารถรับประทานได้อย่างอร่อย แต่ในปัจจุบันนี้ สูตรไก่ย่างนครนายกได้เลือนหายไปจากความทรงจำของคนนครนายก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพื้นที่เส้นทางไปสู่น้ำตกต่าง ๆ กลับมีไก่ย่างวิเชียรบุรี หรือไก่หมุน มาวางขายกันอย่างมากมาย แต่ทุกคนลืมไปว่าจังหวัดนครนายก ก็มีสูตรไก่ย่างที่อร่อยไม่แพ้ที่อื่น ตนจึงมีแนวความคิดที่จะฟื้นฟูและค้นหาสูตรไก่ย่างโบราณด้วยการจัดกิจกรรมการประกวดเพื่อค้นหา สุดยอดไก่ย่างนครนายก สูตรดั้งเดิม  โดยกำหนดให้มีการประกวดในวันที่ 12 เมษายน 2554 ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดนครนายก โดยจะเป็นกิจกรรมที่ควบคู่ไปกับการจัดงานสงกรานต์ของทางจังหวัดไปด้วย 

      ผวจ.นครนายก เปิดเผยอีกว่า นอกเหนือจากการประกวดไก่ย่างแล้ว ในงานยังมีกิจกรรมการประกวดส้มตำ การแข่งขันกินไก่ย่าง เพื่อหาแชมป์กินไก่ย่าง ประจำปี 2554  โดยผู้ที่ชนะในการประกวดไก่ย่าง-ส้มตำ จะได้รับโล่ห์รางวัลและใบประกาศเกียรติคุณจากทางจังหวัดโดยจะเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปใครที่คิดว่าตนเองรู้สูตรไก่ย่างสูตรดั้งเดิมของจังหวัดนครนายก สามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งขันได้ โดยขอใบสมัครได้ที่ที่ทำการอบต.ในแต่ละตำบล ทั้งนี้ทางจังหวัดตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำให้เป็นกิจกรรมที่ยั่งยืนคือ มีการจัดประกวดกันทุกปี และทางจังหวัดจะได้หาทางส่งเสริมในเรื่องของช่องทางการตลาด รวมไปถึงผลักดันให้เข้าสู่กระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานสามารถเป็นสินค้าโอท็อปของจังหวัดได้อีกประเภทหนึ่ง 

     ด้านนายสุรชัย สันติพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนอาหารและผู้จัดการร้านอาหารทริปเปิ้ลเอส กล่าวว่า นับเป็นแนวความคิดที่น่าสนใจ เพราะจังหวัดนครนายกมีฟาร์มเลี้ยงไก่อยู่ค่อนข้างมาก ทำให้มีวัตถุดิบที่หาง่ายในท้องถิ่น นอกจากนี้ไก่ย่างสูตรนครนายก ที่แท้จริงนั้น จะต้องหมักด้วยกะทิ และมีการย่างแบบแล่แผ่ไก่ออกเสียบไม้ แล้วย่าง บางเจ้าอาจจะมีการพรมน้ำกะทิบนเนื้อไก่ในเวลาย่างเพื่อเพิ่มความนุ่ม และหอมของเนื้อไก่ และตนเองยืนยันว่า ไก่ย่างสูตรนครนายก นั้นสามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องใช้น้ำจิ้มก็อร่อย นอกจากนี้ในยุคปัจจุบันยังค้นพบแล้วว่า กะทินั้นมีประโยชน์มากมาย มีคุณค่าทางอาหาร และสารอาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะกรดลอริก คือตัวพระเอก ของกะทิ และน้ำมันมะพร้าวเพราะมีมาก ถึง 48-53 % ในน้ำนมแม่มีประมาณ 12%  จึงมีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นพิเศษ เปลี่ยนเป็นพลังงานเร็วที่ตับ ร่างกายใช้เป็นพลังงานหมดและเร็ว ถูกขับออกหมดไม่สะสมในร่างกาย กะทิหรือน้ำมันมะพร้าวเป็นพลังงานอย่างดีของมนุษย์  ที่ไม่ทำให้เกิดโรค แต่ทำให้โรคดีขึ้น และป้องกันไม่ให้เกิดโรคอีกด้วย 

..............................................................................................................................................................................

ข่าว 2

“เกียรติภูมิ”จับมือ“นครนายกเอฟ.ซี.”

หนุนลีกภูมิภาคแจกบัตรเข้าชมฟรี!


     หนังสือพิมพ์เกียรติภูมิ ประกาศจับมือร่วมกับ “นักรบขุนด่าน” ทีมฟุตบอลสโมสร นครนายก เอฟ.ซี. จัดกิจกรรมแจกบัตรเข้าชมการแข่งขันฟรี ในนัดเหย้าของทีม ทุกเดือนจนสิ้นสุดฤดูกาล เพียงตัดชิ้นส่วนที่อยู่ในหนังสือพิมพ์เกียรติภูมินำไปแสดงที่หน้าประตูทางเข้า  ในขณะที่ “ป๋าเยื่อ” ประธานสโมสรเผยกิจกรรมนอกเหนือจากนี้ยังมีการจับสลากหางบัตรชิงรางวัลรถจยย.ยามาฮ่า ฟีโน่ และรางวัลอื่น ๆ อีกเพียบ


    นายเกรียงศักดิ์ แก่นโพธิ์ เจ้าของและบรรณาธิการอำนวยการ หนังสือพิมพ์เกียรติภูมิ เปิดเผยว่า หนังสือพิมพ์เกียรติภูมิ เป็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่มีความต้องการส่งเสริมและพัฒนาวงการกีฬาในจังหวัดนครนายก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กีฬาฟุตบอล ซึ่งในปัจจุบันนี้จังหวัดนครนายกมีทีมฟุตบอลในนาม สโมสรฟุตบอลนครนายก เอฟ.ซี. ทำการแข่งขันอยู่ในลีกดิวิชั่น 2 ของประเทศ และเพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริม รวมทั้งให้กำลังใจกับนักกีฬาฟุตบอลของทีม ทางหนังสือพิมพ์เกียรติภูมิ จึงได้ร่วมกับทางสโมสรฟุตบอล นครนายก เอฟ.ซี. จัดกิจกรรมส่งเสริมการแข่งขัน โดยจะให้ผู้อ่านหนังสือพิมพ์เกียรติภูมิ สามารถตัดคูปองที่แนบอยู่ในหนังสือพิมพ์แล้วนำไปเป็นบัตรผ่านประตูเข้าชมการแข่งขันฟุตบอล ในนัดเหย้า หรือนัดที่แข่งที่จังหวัดนครนายก ทั้งนี้คูปองดังกล่าวสามารถใช้เข้าชมได้ 1 คนต่อ 1 ชิ้นส่วน ในการแข่งขันนัดใดนัดหนึ่งก็ได้ในเดือนที่หนังสือพิมพ์ออก ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวนี้จะทำต่อเนื่องไปจนสิ้นฤดูกาล หวังว่าคงจะได้รับการสนับสนุนจากผู้อ่าน และขอเชิญให้ทุกคนที่เป็นชาวนครนายก ไปร่วมกันเชียร์ทีมของจังหวัดเราให้มาก ไม่ให้น้อยหน้าทีมของจังหวัดอื่น

      ด้านนายบุญเยื่อ จักรผัน ประธานสโมสรฟุตบอล นครนายก เอฟ.ซี. กล่าวว่า สโมสรฟุตบอล นครนายก เอฟ.ซี. รู้สึกมีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับทางหนังสือพิมพ์เกียรติภูมิ จัดกิจกรรมแจกบัตรเข้าชมการแข่งขันของทีมในนัดเหย้า ซึ่งนอกจากกิจกรรมนี้แล้ว ในเรื่องของแฟนฟุตบอลนั้น ทางทีมมีแฟนคลับกลุ่มหนึ่งที่ติดตามเชียร์อย่างเหนียวแน่น ซึ่งทางสโมสรก็มีการช่วยเหลือกองเชียร์เหล่านี้ด้วยการจัดหาพาหนะเดินทางให้ไปเชียร์เมื่อทีมของเราไปแข่งต่างจังหวัด และเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแฟนคลับ กับทีม ขณะนี้เรามีแผนที่จะให้สิทธิ์กับแฟนคลับกลุ่มนี้ ได้มีสิทธิประโยชน์ในการตั้งซุ้มขายอาหารว่าง ขนมขบเคี้ยว ในสนามเหย้า ของทีม โดยเงินกำไรที่ได้ ก็จะให้ทางกองเชียร์นำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการเชียร์ทีมต่อไป ทั้งนี้ทางทีมได้มอบโลโก้ประจำทีมไว้ที่ซุ้มจำหน่ายอาหารว่างด้วย เพื่อเป็นการให้กำลังใจกับกองเชียร์ ที่ผ่านมากระแสตอบรับของแฟนบอลมีค่อนข้างดี แต่ก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ในปีนี้ทางสโมสรจึงได้คิดแผนการส่งเสริมด้วยการ มอบของรางวัลคือ รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ 1 คัน และของรางวัลอื่น ๆ โดยจะให้แฟนบอลนำหางบัตรที่เข้าชมการแข่งขันของทีมในนัดเหย้า คือแข่งที่สนามกีฬาจังหวัดนครนายกเท่านั้น มาใส่กล่องรับชิ้นส่วน เมื่อจบฤดูกาลแข่งขันก็จะมีการจับสลากมอบของรางวัล ซึ่งนายบุญเยื่อ ยืนยันว่าจะหาของรางวัลมาสมนาคุณให้กับแฟนคลับของทีมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้


............................................................................................................................................

ข่าว3

ธกส.นครนายก เผยใช้เงิน300 กว่าล้าน

จำนำผลผลิต-แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ


     ธกส.นครนายก แถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมา เผยใช้เงินชดเชยในโครงการประกันรายได้เกษตรกร 268 ล้านบาทและใช้ในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ 49 ล้านบาท รวม 2 โครงการใช้เงินไปกว่า 300 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวโครงการกระปุกออมทรัพย์รูปแบบใหม่ ชุด ผลไม้ไทยจำนวน 12 ชนิด


                นายทวีวงศ์ บุนนาค ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขานครนายก เปิดเผยว่าว จากการที่รัฐบาลนำมาตรการรับจำนำผลิตผลมาใช้ในการแก้ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ กำหนดราคารับจำนำสูงกว่าราคาตลาดจำนวนมาก ทำให้กลไกตลาดไม่ทำงาน รัฐต้องแบกรับค่าใช้จ่ายจำนวนมาก การประกันรายได้จึงเป็นแนวทางแก้ปัญหาความเสี่ยงด้านรายได้ ให้เกษตรกรมั่นใจ สามารถวางแผนตัดสินใจลงทุนผลิตสินค้าเกษตรได้  โดยวัตถุประสงค์ของโครงการนี้เป็นไปเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านรายได้ให้แก่เกษตรกรเมื่อปลูกข้าวแล้วไม่ให้ประสบปัญหาขาดทุน ลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลตกต่ำ และทำให้กลไกตลาดทำงานเป็นปกติ ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันทางการค้าได้ ทั้งนี้ผลการดำเนินงานของ ธกส.สาขานครนายก  ณ วันที่ 15 มีนาคม 2554  มีประชาคมที่ยื่นความประสงค์ขอเข้าโครงการจำนวน 12,779   ราย  จัดทำสัญญาได้ 12,703 ราย  ได้รับการชดเชย12,690 ราย  รวมเป็นจำนวนเงินชดเชย  268.73  ล้านบาท                           

   นายทวีวงศ์ เปิดเผยต่อไปอีกว่า สำหรับโครงการแก้ใขปัญหาหนี้สินนอกระบบ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ใขปัญหาความยากจน ตามที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาโดยการแก้ใขหนี้สินด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ภาคประชาชน แก้ใขปัญหาหนี้นอกระบบและมีการตั้งศูนย์อำนวยการปฎิบัติการแก้ใขหนี้สินภาคประชาชน ในสังกัดกระทรวงการคลัง โดยคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ ต้องมีสัญชาติไทย  บรรลุนิติภาวะ มีต้นเงินไม่เกิน 200,000 บาท ก่อนวันที่ 19 พฤษจิกายน  2552 และเป็นหนี้ที่เกิดจากเหตุ  สุจริต และจำเป็นและมีเอกสารการเป็นหนี้ ซึ่งผลการดำเนินงานของสาขานครนายก  ณ. วันที่  15  มีนาคม  2554 สามารถจัดการลงทะเบียนได้จำนวน 1,373 ราย มีผู้ที่ผ่านการเจรจาจำนวน 823 ราย ได้รับการช่วยเหลือแล้วจำนวน 462 ราย รวมเป็นจำนวนเงิน 49.25 ล้านบาท

                   ผอ.สำนักงาน ธกส. สาขานครนายก ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตามที่ธนาคารได้จัดทำโครงการกระปุกออมทรัพย์ ชุด ครอบครัวไก่ เพื่อส่งเสริมการออมเงินของประชาชยทั่วไป ให้เกิดพฤติกรรมการออมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้ฝากเงินเป็นอย่างดี ธนาคารจึงได้ทำโครงการกระปุกออมทรัพย์ โดยออกแบบกระปุกออมทรัพย์รูปแบบใหม่ ชุด ผลไม้ไทยจำนวน 12 ชนิด ที่สามารถสื่อสารเรื่องราวถึงบทบาท ภารกิจ ของธนาคารในการพัฒนาภาคเกษตรได้อย่างสอดคล้องมากยิ่งขึ้น สำหรับการรับกระปุกออมทรัพย์ชุดผลไม้ไทย มีขั้นตอน ดังนี้คือ เมื่อเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์โครงการกระปุกออมทรัพย์ ชุด ผลไม้ไทย จะได้อัตราดอกเบี้ยเท่ากับเงินฝากออมทรัพย์ปกติตามประกาศของธนาคาร ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นต้นไป ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขา ส่วนเงื่อนไขการรับกระปุกออมทรัพย์นั้น การรับกระปุกใบที่ 1 ต้องฝากเงินไม่น้อยกว่า 5,000 บาท  ใบถัดไปต้องฝากเงินเพิ่มไม่น้อยกว่า 5,000 บาท และมียอดเงินฝากคงเหลือสะสมต่อเนื่องตั้งแต่วันรับกระปุกออมทรัพย์ใบแรกบวกเงินฝากเพิ่มเพื่อรับใบใหม่ ทั้งนี้จำกัดให้รับกระปุกออมทรัพย์ได้ท่านละไม่เกิน 1 ชิ้น/ 1 แบบ โดยผู้ฝากสามารถสะสมกระปุก จำนวน 12 ใบ โดยฝากเงินต่อเนื่องเป็นระยะเวลาประมาณ 3 ปี ยอดเงินฝากรวม 60,000 บาท

............................................................................................................................................

ข่าว4

พัฒนาชุมชนนครนายก

จัดกิจกรรมชุมชนเข้มแข็ง

ส่งเสริมกลุ่มออมทรัพย์

เพิ่มศักยภาพการผลิต


     พัฒนาชุมชน จ.นครนายก จัดกิจกรรมส่งเสริมการออมทรัพย์ในกลุ่มชุมชนให้เข้มแข็ง เน้นเพิ่มศักยภาพกลุ่มออมเพื่อการผลิต และเน้นชุมชนเช้มแข็งด้วยการออมแบบพอเพียง


         นางสาวสุณี สุทธิวานิช พัฒนาการจังหวัดนครนายก เปิดเผยว่า กรมการพัฒนาชุมชน  กำหนดประเด็นยุทธศาสตร์การพัฒนาทุนชุมชน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความมั่นคง เพื่อมุ่งเน้นการส่งเสริมกิจกรรมเพื่อให้ชุมชนสามารถบริหารจัดการทุนของชุมชนให้เกิดมูลค่าและคุณค่าอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด มีความสมดุลและยั่งยืน ทั้งทุนการเงินและทุนอื่นๆในชุมชน จังหวัดนครนายก ให้ความสำคัญของทุนทางการเงิน โดยเน้นการเพิ่มศักยภาพกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต จึงได้จัดทำโครงการชุมชนเข้มแข็งด้วยการออมทรัพย์แบบพอเพียง ขึ้นโดยมี วัตถุประสงค์เพื่อสร้างกระแสการออมทรัพย์ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้เกี่ยวข้องกับดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต

        พัฒนาการจังหวัดนครนายก กล่าวต่อไปว่า สำหรับวิธีดำเนินการนั้น ทางสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครนายก ได้จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว , นิทรรศการการดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต มีการประกาศเชิดชูเกียรติกลุ่มออมทรัพย์ดีเด่น ระดับจังหวัด จัดเวทีเสวนาทางวิชาการ และเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์ฯ จัดคลินิกตรวจสุขภาวะทางการเงินของกลุ่มออมทรัพย์ฯ รวมทั้งมีการสรุป ประเมินผล และรายงานผลการดำเนินงาน ทั้งนี้กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย คณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตหน่วยงานภาคีการพัฒนา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง  จำนวน  250  คน ได้แก่คณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์  จำนวน  150  คน หน่วยงานภาคีการพัฒนา จำนวน  20  คน เจ้าหน้าที่จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง จำนวน  40  คน และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน  จำนวน  40  คน โดยใช้สถานที่คือห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครนายก และบริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครนายก เป็นสถานที่จัดงาน                               

Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 27,776 Today: 4 PageView/Month: 64

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...